บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ได้รับรางวัลพระราชทาน ปี 2562 ตัวอย่างเยาวชนผู้ไม่เคยหยุดพัฒนาตนเอง

Share

เผยแพร่เมื่อ: 13 พ.ย. 63

ศูนย์พัฒนกิจและนิสิตเก่าสัมพันธ์

https://www.chula.ac.th/news/33815/

รายละเอียดข่าวสาร

หนึ่งในนิสิตนักศึกษาซึ่งกระทรวงศึกษาธิการประกาศเกียรติคุณให้ได้รับรางวัลพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2562 มีชื่อของปาณิสรา อารยะถาวร หรือน้องวัน นิสิตนักกิจกรรมคนเก่งจากรั้วจามจุรี ซึ่งเคยทำหน้าที่ผู้อัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 73 เธอเป็นความภูมิใจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะนิสิตผู้มีความประพฤติดี เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเยาวชน เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและทำกิจกรรมทั้งด้านวิชาการ กีฬา ศิลปวัฒนธรรม และจิตอาสาเข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือสังคม ปัจจุบันน้องวันสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ และจะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ตลอดระยะเวลา 4 ปีในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปาณิสราเรียนรู้ประสบการณ์อันมีค่าจากการทำหลากหลายกิจกรรมทั้งในคณะและมหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้เธอเติบโตและพัฒนาตนเองในหลายด้าน รวมทั้งได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งเป็นโอกาสให้เธอได้พัฒนาทักษะชีวิตที่สำคัญ ด้วยบุคลิกภาพและความสามารถอันโดดเด่น ทำให้เธอได้รับคัดเลือกเป็นพิธีกรแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (MC of Chula) ภาคพิธีการ รุ่นที่ 3 คว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันโต้วาทีอุดมศึกษา ระดับประเทศ ได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 23 และล่าสุด รางวัลพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2562  

ปาณิสรา กล่าวว่า “รางวัลนี้เป็นหนึ่งในรางวัลอันทรงเกียรติครั้งหนึ่งในชีวิต รู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับคัดเลือกให้รับรางวัลนี้ วันคิดว่าส่วนสำคัญที่ทำให้วันได้รับรางวัลนี้คือทุกๆ คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ขอบคุณครอบครัว ครูอาจารย์ทุกท่าน เพื่อนๆ และพี่น้องชาวจุฬาฯ ทุกคนที่ช่วยเหลือ สนับสนุน ให้โอกาส เป็นกำลังใจ และได้เข้ามาเติมเต็มให้กลายเป็นวันในวันนี้”

“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever” ทำทุกวันให้เหมือนเป็นวันสุดท้ายของชีวิต คือคติประจำใจของปาณิสราที่เป็นแรงผลักดันให้เธอใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่เสียใจและเสียดายในภายหลัง รวมถึงการทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

“คนเราสามารถเติบโตและพัฒนาไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกวันสามารถเป็นบทเรียนที่ดีที่ทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นในทุกๆ วันได้” ปาณิสรา กล่าว

“แผนในอนาคตหลังจากจบการศึกษา วันมีความฝันอยากเป็นผู้พิพากษา เพื่อจะได้เป็นฟันเฟืองหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมต่อไป หลังจากนี้จะต้องเตรียมตัวสำหรับการสอบเนติบัณฑิต รวมทั้งตั้งใจจะศึกษาต่อเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ชีวิตทั้งทางด้านวิชาการและการทำงานด้านกฎหมาย” ปาณิสสรา กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับรางวัลพระราชทานเป็นรางวัลที่กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2506 ตามพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานรางวัลให้แก่ผู้ที่มีความประพฤติดีและมีความมานะพยายามศึกษาเล่าเรียนจนได้ผลการเรียนดี รวมทั้งสถานศึกษาที่จัดการศึกษาดีจนผู้เรียนได้รับผลการเรียนดีเป็นส่วนรวม สำหรับนิสิตนักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกต้องมีคุณลักษณะพื้นฐานด้านการศึกษาเล่าเรียน การจัดการและการทำงาน สุขภาพอนามัย ความประพฤติ คุณธรรม จริยธรรม การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม และมีกิจกรรมและผลงานดีเด่น เพื่อรับรางวัลพระราชทานพร้อมเกียรติบัตร และเข็มเชิดชูเกียรติ